หมายเลขที่กลายเป็นหนึ่งในตำนานของสโมสร โดยหมายเลขเบอร์นี้ทีมปิศาจแดงเรียกได้ว่า เป็นเบอร์ขึ้นหิ้งของสโมสร บนกีฬารุ่นหนัวถ้าหากนับตั้งแต่ในอดีต นักกีฬาที่ได้รับมอบให้มีสิทธิสวมเสื้อเบอร์นี้ได้แก่
ตำนานเบอร์ 7 นักเตะอารมณ์ศิลปิน
Eric Daniel Pierre Cantona หรือ เอริค คันโตน่า เล่นให้กับแมนเชสเตอร์ยูไนเต็ดช่วงปี 1992 – 1997 เป็นนักเตะที่เรียกได้ว่า เป็นตัวอย่างที่ดีกับการเล่นฟุตบอลเพราะมีความเป็นผู้นำที่สูงมาก พร้อมที่จะทำให้เพื่อนๆและแฟนบอลชื่นชมอยู่เป็นจำนวนมาก เขาได้รับการโหวตจากแฟนบอลให้เป็น “นักฟุตบอลแห่งศตวรรษ” มีนิสัยความเป็นผู้นำสูง หากว่ามีใครถามว่า เดอะคิง คือ ใคร ไม่ต้องสงสัยเลยว่า สาวกเด็กผีจะกล่าวออกมาเป็นเสียงเดียวกันว่า เอริค คันโตน่า ถึงแม้ว่าเรื่องราวอื่นๆนอกสนามเขาจะไม่ดีก็ตาม แต่เมื่ออยู่บนสนามหญ้าเขาจะกลายเป็น คิงแห่งสนามทันที ตลอดระยะเวลา 7 ปีที่ผ่านมา แชมป์ พรีเมียร์ลีก 4 สมัย และ แชมป์ เอฟเอ คัพ 2 สมัย ลงสนาม 185 นัด ยิง 93 ประตู ผู้บุกเบิกความสำเร็จของปิศาจแดง
ตำนานเบอร์ 7 จักรพรรดิ์ลูกตั้งเตะ
David Beckham หรือ เดวิด เบ็คแฮม เป็นนักเตะที่สืบทอดตำนานต่อจาก เอริค คันโตน่า จากที่ใส่เบอร์ 10 มาเป็น เบอร์ 7 อยู่กับแมนเชสเตอร์ยูไนเต็ดช่วงปี 1993 – 2003 แต่เริ่มเล่นให้กับแมนยูในปี 1995 ลูกยิงสร้างตำนานให้กับ เดวิด เบ็คแฮม คือ ยิงจากระยะครึ่งสนามในนัดที่แข่งกับวิมเบิลดันในปี 1996 หล่อระดับพระเอก เก่งระดับสุดยอดของเจ้าพ่อวงการตั้งเตะ 8 ฤดูกาลที่เล่นให้กับทีมเรียกได้ว่า เขาเป็นหัวใจหลักของทีม ลงสนาม 394 นัด ทำ 85 ประตู การันตีความสุดยอดด้วยการเป็นแชมป์ พรีเมียร์ลีก 6 สมัย, เอฟเอ คัพ 2 สมัย, ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก 1 สมัย และ อินเตอร์แนชั่น 1 สมัย
ตำนานเบอร์ 7 ซุปเปอร์แมนบนดินแดนอังกฤษ
Cristiano Ronaldo หรือ คริสเตียโน่ โรนัลโด เป็นนักเตะที่เข้าสู่ทีมหลังจากการย้ายทีมไปเรอัล มาดริด ของ David Beckham โรนัลโด ได้เข้ามาสวมชุดยูนิฟอร์มเบอร์ 7 ต่อจากเดวิด เบ็คแฮม โดยเล่นกับแมนยูช่วงปี 2003-2009 เป็นอีกหนึ่งผู้เล่นระดับตำนานที่ขณะนี้ได้ก้าวเป็นหนึ่งในนักเตะสุดยอดของโลกแล้ว การลงสนาม 6 ฤดูกาล สร้างตำนานได้อย่างยอดเยี่ยมกับค่าตัวสถิติโลก 84.6 ล้านปอนด์ ตามนักเตะรุ่นพี่อย่างเดวิด เบ็คแฮม ที่ “ซานติอาโก้ เบร์นาเบว” การันตีความยอดเยี่ยมของโรนัลโดกับปิศาจแดงด้วยการ ลงสนาม 292 เกม ยิง 118 ประตู แชมป์ พรีเมียร์ลีก 3 สมัย, เอฟเอ คัพ 1 สมัย, ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก 1 สมัย, ฟีฟ่า คลับ เวิลด์ คัพ 1 สมัย, บัลลงดอร์ 1 สมัย(นับแค่ตอนอยู่กับแมนยู)
ตำนานเบอร์ 7 มหัศจรรย์นักเตะหน้าหยก
Michael Owen หรือ ไมเคิล โอเว่น เป็นนักเตะที่ย้ายจากทีมอริไปสู่อริ เนื่องจาก ไมเคิล โอเว่น เคยเป็นกองหน้าจากทีมลิเวอร์พูล อาจจะดูไม่โดดเด่นเท่ากับนักเตะ จาก เรดแมชชีน มาสู่กองทัพ ปิศาจแดงโดยเล่นในช่วงปี 2009-12 ถึงแม้ว่าจะเล่นให้กับ ปิศาจแดง 3 ฤดูกาลเท่านั้น ไมเคิล โอเว่นลงสนาม 52 เกม, ยิง 17 ลูก การันตีความยอดเยี่ยมของเบอร์ 7 ได้ด้วยการคว้าแชมป์ พรีเมียร์ลีก 1 สมัย และ แชมป์ ลีก คัพ 1 สมัย
ตำนานเบอร์ 7 ไร้รสชาติแต่ขาดไม่ได้
Antonio Valencia หรือ อันโตนิโอ วาเลนเซีย จากการขาดช่วงของตำนานเบอร์ 7 ที่จากไปของไมเคิล โอเว่น ซึ่ง วาเลนเซีย เปลี่ยนจากหมายเลข 25 มาสวมเสื้อหมายเลข 7 ในฤดูกาล 2012/13 และเป็นเพียงแค่ฤดูกาลเดียว เพราะรับความกดดันในการเป็นตำนานเบอร์ 7 ไม่ไหว แต่ผลงานของวาเลนเซีย ก็ไม่ได้ย่ำแย่กับทีมเท่าไรนัก ลงสนาม 270 เกม, ยิง 21 ลูก การันตีถึงความสามารถได้ด้วยการเป็นแชมป์ พรีเมียร์ลีก 2 สมัย, แชมป์ เอฟเอ คัพ 1 สมัย และ แชมป์ ลีก คัพ 1 สมัย
ตำนานเบอร์ 7 อัปยศที่สุดในประวัติศาสตร์ของแมนยู
Angel di Maria หรือ อังเคล ดิ มาเรีย เป็นนักเตะระดับโลกอย่างแท้จริง แต่ไม่สามารถเล่นได้อย่างเข้าระบบกับ แมนยูในช่วงที่หลุย์ ฟานกัล คุมทีมอยู่ อังเคล ดิ มาเรีย ย้ายจาก ราชันย์ชุดขาว มา ปีศาจแดง ด้วยค่าตัว 67.50 ล้านปอนด์ แต่ทำผลงานไม่ได้ตามที่คาดหวังเอาไว้ ฉุดทีมดิ่งลงเหวอย่างไม่เคยเป็นมาก่อน ลงสนาม 32 เกม และ ยิง 4 ลูก
ตำนานเบอร์ 7 เจเนอรัลที่หลงลืม
Memphis Depay หรือ เมมฟิส เดอปาย หลังจากการจากไปของ อังเคล ดิ มาเรีย ผู้ที่รับช่วงต่อแทนนั้น คือ เมมฟิส เดอปาย กลายเป็นบุคคลที่ถูกคาดหวังไว้สูงว่า จะเปลี่ยนแปลงทีมปิศาจแดง กู้ชื่อเสียงกลับมาให้ดีดังเดิม แต่การเล่นของยอดนักเตะรายนี้ โชว์ฟอร์มออกทะเลสุดกู่ และ ย้ายทีมหนีไปอยู่ โอลิมปิค ลียง ลงสนาม 45 เกม และ ยิง 7 ลูก
ตำนานเบอร์ 7 จุดเริ่มต้นตำนานบทใหม่ของปิศาจแดง
Alexis Sanchez หรือ อเล็กซิส ซานเชซ ฉายา El Nino Maravilla ผู้คนต่างคาดหวังว่าเขาจะกลับมาเป็นผู้ที่สร้างตำนานบทใหม่ ให้ยิ่งใหญ่กว่าเดิม เบอร์ 7 จะยังคงสร้างตำนานต่อไปได้ ยุครุ่งเรืองจะกลับมาหรือไม่ความคาดหวัง ยังคงถูกคาดหวังเอาไว้