จุดกำเนิด ศึกวันแดงเดือด

ว่ากันถึงพรีเมียร์ลีก ทำไมลีกนี้ถึงได้รับความนิยมอย่างมากในบ้านเรา อย่างแรกเลยต้องยอมรับเลยว่าช่องว่างระหว่างทีมใหญ่และทีมเล็กของลีกไม่ได้แตกต่างกันมากเหมือนลีกอื่น หากทีมใหญ่เล่นไม่พร้อมก็อาจจะโดนลงโทษได้แบบเจ็บแสบกันเลยทีเดียว ไม่เพียงเท่านั้นแต่ละสัปดาห์จะมีเกมใหญ่ที่เหล่าทีมใหญ่มาเจอกันประจำ นอกจากความเป็นอริในสนามนอกสนามยังมีเรื่องราวมากมาย จนกลายเป็นแมตช์หยุดโลกที่คนต้องวางทุกอย่างเพื่อรอดูทีเดียว หนึ่งในเกมไฮไลต์ประจำซีซั่นของพรีเมียร์ลีกก็คือ ศึกวันแดงเดือด

ศึกวันแดงเดือดคืออะไร

ก่อนอื่นคนที่ไม่ได้ติดตามฟุตบอลเป็นประจำ อาจจะไม่ค่อยเก็ตเท่าไรว่า ศึกวันแดงเดือดคืออะไร อาจจะตีความไปเป็นอย่างอื่น เรามาทำความรู้จักกันหน่อย ศึกวันแดงเดือด หมายถึงการโคจรมาเจอกันของสองทีมยักษ์ใหญ่ของศึกพรีเมียร์ลีกอย่าง ลิเวอร์พูล กับ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด จุดเด่นของศึกวันแดงเดือดมันเป็นการต่อสู้แห่งศักดิ์ศรี กว่าจะถึงวันแข่งจะมีการบลัฟกันของทั้งสองทีม ผู้จัดการทีมและนักเตะต่างออกมาพูดแสดงทัศนะกันเผ็ดร้อน แฟนบอลก็จะเหมือนกับการได้บิ้วอารมณ์จนคุกกรุ่นพร้อมจะบวกกับอีกฝ่ายได้ตลอดเวลา ทั้งในอังกฤษ หรือ เมืองไทยเองก็เช่นกัน หากใครเป็นฝ่ายแพ้บอกเลยว่าเตรียมปิดโลกอินเตอร์เน็ตไปสักสองอาทิตย์กันเลยก็ว่าได้ นี่แหละวันแดงเดือด

ภูมิหลังความขัดแย้ง

ต้องบอกก่อนว่า ความขัดแย้งของทีมในฟุตบอลยุโรปนั้น พวกเค้าจะมีเรื่องราวทางด้านประวัติศาสตร์สอดแทรกอยู่ด้วย บางเรื่องมีผลถึงประวัตศาสตร์ของเมืองด้วย อย่าง แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด กับ ลีดส์ ยูไนเต็ด คู่นี้ในสนามก็อย่างหนึ่งแต่มีความขัดแย้งเกี่ยวกับสงครามด้วย ศึกวันแดงเดือดเองก็เช่นกัน ต้องยอมรับว่า แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ถือว่าเป็นตัวแทนของเมืองแมนเชสเตอร์ (ในยุคนั้น) ส่วนลิเวอร์พูลก็เป็นตัวแทนของเมืองลิเวอร์พูลด้วยเช่นกัน ทีนี้ทั้งสองเมืองนี้ตามประวัติศาสตร์มีความขัดแย้งกันเรื่องหนึ่งก็คือ การขนส่งสินค้ากล่าวคือเมืองลิเวอร์พูลถือว่าเป็นเมืองท่าแห่งสำคัญที่เมืองแมนเชสเตอร์ต้องพึ่งพา แต่หลังจากได้มีการสร้างคลองเดินเรือแมนเชสเตอร์ขึ้นมาทำให้ เมืองลิเวอร์พูลถูกลดความสำคัญลงเพราเรือขนส่งสินค้าไปถึงเมืองแมนเชสเตอร์โดยตรงได้เลย ยังไม่รวมถึงเรื่องเศรษฐกิจที่ลิเวอร์พูลถือว่าเสียหายมหาศาลเลยจากการเก็บค่าผ่านทางของเรือที่ผ่าน พวกเค้าก็ไม่ได้ จึงทำให้ชาวเมืองตกงานหลายคนในยุคนั้น เรื่องนี้นักประวัติศาสตร์บอกว่าความไม่พอใจจึงถูกขับออกมาบนผลงานในสนามฟุตบอลนั่นเอง

ความขัดแย้งในสนาม

จากข้อขัดแย้งดังกล่าว การจะเอาชนะอีกฝ่ายได้ก็เลยต้องมาลงที่สนามฟุตบอลนั่นเอง ย้อนกลับไปในความรุ่งเรืองในอดีตยุคบิล แชงค์ลีย์ตอนนั้นลิเวอร์พูลถือว่าเป็นเจ้าแห่งเกาะอังกฤษ คว้าแชมป์มามากมาย แต่พวกเค้าก็ต้องมาเจอกับก้างชิ้นโตนั่นคือ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ยุคนั้นอาจจะไม่ได้เป็นทีมใหญ่อะไร แต่พร้อมจะทำให้ลิเวอร์พูลต้องหน้าหงายตลอด กลับกันในความรุ่งเรืองของแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ดยุคเซอร์อเล็ก เฟอร์กูสัน ก็จะมีลิเวอร์พูลพร้อมจะทำให้พวกเค้าเจ็บแสบจากผลการแข่งขันได้เหมือนกัน ทั้งคู่ต่างแข่งขันกันทั้งในการพัฒนาเมือง เศรษฐกิจของเมือง และทีมฟุตบอลด้วยเช่นกัน แม้ตอนนี้ความดุเดือดของศึกแดงเดือดจะลดน้อยลงไป แต่เชื่อเหอะว่าแฟนบอลจัดเต็มตลอดไม่ว่าจะเป็นทางอังกฤษ หรือ ทั่วโลก

นี่ยังไม่รวมถึงเหตุการณ์ในสนามที่มีทุกอารมณ์ผสมปนเปกันไปหมดทั้งความสนุกสนานของเกมฟุตบอล เรื่องความผิดพลาดของนักเตะ ผู้ตัดสิน ฯลฯ อาการหัวร้อนของนักเตะ และอีกมากมายปนอยู่จนทำให้ ศึกแดงเดือด ถูกจัดอันดับเป็นหนึ่งในคู่แข่งขันหยุดโลกอย่างแท้จริง